น้ำมันหอมระเหย ในต่างประเทศเรียกกันว่า Essential Oils (เอสเซนเชียล ออยส์) ที่แปลว่าน้ำมันที่มีคุณค่า เพราะในหนึ่งหยดนั้น มีคุณค่าที่สำคัญของจากพืชที่สกัดอยู่มากมาย ในการสกัดน้ำมันหอมระเหย มีเทคนิคการสกัด 5 แบบคือ 1. แบบ Steam Distillation 2. แบบ Carbon Dioxide Extraction และ 3. แบบ Cold Pressing 4. แบบ Enfleurage 5. แบบ Solvent Extraction แต่การสกัดแบบที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือการสกัดแบบ Steam Distillation โดยใช้การนึ่งด้วยความร้อนแล้วสกัดน้ำมันที่แยกชั้นออกมาจากน้ำที่ได้จากการกลั่นจากไอระเหย ในส่วนของน้ำมันที่ได้จะเรียกว่า Essential Oils และส่วนของน้ำที่ได้จากการกลั่นจะเรียกว่า Hydrosols ซึ่งเป็นน้ำที่มีประโยชน์พอๆกับน้ำมันหอมระเหยแต่มีความเข้มข้นน้อยกว่า
คนสมัยก่อนนิยมใช้น้ำมันหอมระเหยในการรักษาโรค เช่นในประเทศฝรั่งเศส นิยมใช้น้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากดอกลาเวนเดอร์ในการล้างแผลติดเชื้อ ไฟไหม้และแก้อาการผดผื่น ในปัจุบัน น้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากพืชหลายชนิดถูกนำมาใช้ผสมกับสารเคมีทำเป็นยารักษาโรคมากมายหลายชนิด
น้ำมันหอมระเหยนั้น มีความเข้มข้นสูงมาก นั่นเป็นเพราะการสกัดน้ำมันหอมระเหยแต่ละชนิด ต้องใช้พืชเป็นจำนวนมาก เช่นต้องใช้ดอกลาเวนเดอร์ถึง 100 กิโลกรัม เพื่อสกัดนำ้มันดอกลาเวนเดอร์ได้เพียง 1 กิโลกรัม ดังนั้น หากพืชชนิดใดหายาก มีราคาแพงหรือมีปริมาณน้ำมันหอมระเหยในพืชน้อยจะทำให้ราคาน้ำมันหอมระเหยแพงและหายากไปด้วย เช่น ดอกกุหลาบ ดอกมะลิ ดอกคาร์โมมายด์ ไม้จันทร์หอม เป็นต้น
น้ำมันหอมระเหย หรือ Essential Oils คือน้ำมันที่สกัดจากธรรมชาติล้วนๆ อย่างร้าน Telvada เราขายแต่น้ำมันหอมระเหยสกัดจากธรรมชาติ 100% เกรด Therapeutic คือเกรดที่ดีที่สุดและแพงที่สุดที่ใช้ในการบำบัดเท่านั้น
น้ำมันหอมระเหยของร้าน Telvada ส่วนใหญ่สกัดจากพืขออแกนิกและได้รับการรับรองจากสถาบัน USDA Organic ว่าเป็นน้ำมันออแกนิกจริงๆ ซึ่งจะปลอดจากสารเคมีใดๆทั้งสิ้น ทางร้าน Telvada นำเข้าน้ำมันหอมระเหยจากหลายๆประเทศทั่วโลกโดยมีเคลืออข่ายผู้ซื้อ-ผู้ขายที่เป็นกลุ่มสมาชิกน้ำมันหอมระเหยระดับนานาชาติ The National Association for Holistic Aromatherapy (NAHA) ที่ร้าน Telvada เป็นสมาชิกแห่งเดียวในประเทศไทย จึงมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้และสามารถใช้ในการบำบัดได้จริง
การใช้น้ำมันหอมระเหยในการบำบัดหลักๆ มี 3 แบบด้วยกัน คือ 1. แบบ Aromatic (ดม) 2. แบบ Topical (ทา) 3. แบบ Internal (รับประทาน)
1. การใช้แบบ Aromatic (อโรเมติก)
การบำบัดด้วยน้ำมันหอมระเหยแบบ Aromatic นั้น สามารถเปิดฝาน้ำมันหอมระเหยจากขวดแก้วแล้วสูดดมได้เลย ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด หรือจะหยดน้ำมันหอมระเหยเพียง 1 หยดบนฝ่ามือแล้วถูมือให้ร้อนแล้วป้องจมูกแล้วดมก็จะได้รับกลิ่นมากขึ้น หรือหากอยากได้รับการบำบัดอย่างต่อเนื่องในห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องทำงาน สามารถเปิดเครื่องส่งกลิ่นแล้วหยดน้ำมันหอยระเหยประมาณ 5-10 หยอต่อน้ำ 1 ถ้วยตวง การสูดดมไอระเหยของน้ำมัน ร่างกายจะรับอนูเล็กๆที่ลอยอยู่ในอากาศเข้าทางโพลงจมูก จากนั้นอนูเล็กๆที่มีคุณสมบัติในการบำบัดของน้ำมันหอมระเหยจะไปติดอยู่ที่เซลด้านในของ Olfactory Epithelium ซึ่งเป็นประสาทรับกลิ่น หรือ เส้นประสาทโอลแฟ็กทอรี
ซึ่งเป็นเส้นประสาทรับกลิ่นประกอบด้วยใยประสาทรับความรู้สึกที่มาจากเซลล์ และส่งตรงไปที่ Limbic System หรือ ระบบลิมบิก ซึ่งเป็นกลุ่มของส่วนของสมอง ที่ทำงานร่วมกันในการรับรู้เกี่ยวกับอารมณ์และพฤติกรรม ควบคุมพฤติกรรมที่ตอบสนองต่ออารมณ์ การสร้างความทรงจำระยะยาว และการเรียนรู้ ตัวอย่างเช่น หากลูกค้ามีอาการเครียดและนอนไม่หลับ สามารถใช้เครื่องส่งกลิ่นเปิดในห้องนอนแล้วหยดน้ำมันลาเวนเดอร์ (Lavender Essential Oil) จากร้าน Telvada หรือจะดมจากขวด หรือจากฝ่ามือ ก็จะรู้สึกอารมณ์ดี และผ่อนคลายขึ้นทันที
2. การใช้แบบ Topical (ทรอปิคอล)
การใช้แบบ Topical คือการทาบริเวณที่มีอาการหรือบริเวณที่ร่างกายสามารถดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้เร็วที่สุด เช่นบริเวณใต้เท้า ที่มีรูขุมขนกว้างสามารถซึมซับน้ำมันหอมระเหยเข้ากระแสเลือดได้เร็ว อย่างไรก็ดี การทาน้ำมันหอมระเหยบนร่างกายโดยตรงค่อนข้างจะอันตรายและไม่แนะนำ นอกจากจะมั่นใจแน่นอนว่าน้ำมันหอมระเหยที่ได้มาเป็นเกรด Therapeutic (เทราพิวติก) หรือเกรดบำบัด อย่างร้าน Telvada เรานำเข้าเฉพาะน้ำมันหอมระเหยเกรด Therapeutic (เทราพิวติก) เท่านั้น นอกจากนี้ น้ำมันหอมระเหยบางชนิดสามารถทำให้ผิวแสบร้อนได้จึงแนะนำให้นำมาผสมกับ carrier oil (แคริเออ ออย์) ก่อนถึงจะสามารถนำมาทาบนผิวหนังได้ น้ำมันแคริเออ ออย์ carrier oil ที่แนะนำคือน้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันเมล็ดเอลมอนหวาน หรือน้ำมันเมล็ดแอปริคอท เป็นต้น
3. การใช้แบบ Internal (อินเทอนอล)
การใช้แบบ Internal (อินเทอนอล) คือการใช้น้ำมันหอมระเหยโดยการทานนั่นเอง น้ำมันหอทระเหยที่ใช้รับประทานได้ คือน้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากพืชสมุนไพร เช่น ตะไคร้ ขิง ขมิ้น เป็นต้น และจะต้องเป็นน้ำมันหอมระเหยเกรด Therapeutic (เทราพิวติก) เท่านั้น เพราะเป็นเกรดที่ดีที่สุดและบริสุทธิ์ที่สุด ปราศจากสารเติมเต็มหรือสารปนเปื้อนใดๆ
เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยนั้นสามารถละลายในไขมันได้ 100% (100% fat-soluble) เมื่อทานเข้าไปร่างกายจะสามารถนำไปใช้งานได้ทันที พืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการขับลม แก้ท้องอืด และกลิ่นปากอย่าง เปบเปอร์มิ้นต์ สามารถช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้เป็นอย่างดี หรือน้ำมันหอมระเหยขิง ก็สามารถนำมาผสมน้ำร้อน เพียงแค่ หนึ่งหยอต่อน้ำร้อนหนึ่งถ้วย เพื่อช่วยบรรเทาอาการวิงเวียน คลื่นไส้ได้
อย่างไรก็ดี ทางร้าน Telvada ไม่ขอแนะนำให้ลูกค้ารับประทานน้ำมันหอมระเหยเองที่บ้าน เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยมีปริมาณความเข้มข้นมากกว่าพืชหลายเท่า เช่น จะต้องใช้ดอกลาเวนเดอร์ 1,000 กิโลกรัม เพื่อที่จะสกัดน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ได้แค่ 100 กิโลกรัม เพราะฉนั้น การทานน้ำมันหอมระเหยเพียง 2-3 หยด ก็เทียบกับการรับประทานพืชชนิดนั้นเกินขนาด หรืออาจทานมากเกินความจำเป็น ซึ่งก็อาจทำให้เป็นพิษต่อร่างกายได้
วิธีการใช้น้ำมันหอมระเหยตามสัดส่วนที่ถูกต้อง:
1. สำหรับผสมกับน้ำมันนวด / น้ำมันทาตัวบำรุงผิว : เจือจาง 2.5-10% หรือ 15-60 หยดต่อ น้ำมันเบส (Carrier Oils) ขนาด 30 ml โดย Carrier Oils ที่แนะนำก็คือ
- น้ำมันเมล็ดองุ่น Grape seed Oil (Vitis vinifera)
- น้ำมันมะกอก Olive Oil (Olea europaea)
- น้ำมันโจโจ้บา Jojoba Oil (Simmondsia chinensis)
- น้ำมันงา Sesame Oil (Sesamum indicum)
- น้ำมันอัลมอนด์หวาน Sweet Almond Oil (Prunus dulcis)
2. Inhaler ยาดมแบบสำลี
- ใช้ประมาณ 20 หยดบนสำลีออร์แกนิก แล้วใส่ในหลอดยาดม
3. การอาบน้ำ
- ผสมน้ำมันหอมระเหย 2-12 หยด กับเกลือ 1 ช้อนชา หรือสารละลาย (polysorbate, solubol, coconut emulsifier) อื่นๆ แล้วคนให้ละลายก่อนลงแช่ในอ่างอาบน้ำ
4. Diffuser ใส่เครื่องพ่นอโรม่า
- ใส่ได้ 2- 6 หยด ต่อครั้งสำหรับน้ำ 1 แก้วตวง
5. ทำสเปร์ยฉีดห้องหอม
- ใช้น้ำกลั่น 30 ml และน้ำมันหอมระเหย 15 หยดหรือ 1 ช้อนชา เขย่าให้เข้ากันก่อนฉีด หรือสามารถเพิ่มสารที่ช่วยให้น้ำมันหอมระเหยละลายกับน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
6. การใช้น้ำมันหอมระเหยกับ ครีม โลชั่น และเจล
- สามารถใช้ได้ในอัตราส่วน 1-10% หรือประมาณ 6-60 หยด ต่อครีม โลชั่น เจล ขนาด 30ml/g
***************************************************************************************
ข้อควรระวังในการใช้น้ำมันหอมระเหย
1. เก็บน้ำมันหอมระเหยทั้งหมดให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
2. หากเกิดอาการระคายเคืองให้หยุดใช้
3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับตา
4. ใช้น้ำมันหอมระเหยในบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก
5. หลีกเลี่ยงการทานน้ำมันหอมระเหย หรือใช้น้ำมันหอมระเหยแบบไม่เจือจางก่อน ยกเว้นแต่คุณจะได้รับคำแนะนำจากนักอะโรมาเทอราพีที่มีคุณสมบัติเหมาะสมหรือผู้ประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์เท่านั้น
6. จัดเก็บน้ำมันหอมระเหยและน้ำมันพืชให้ห่างจากแสงและความร้อน
7.ก่อนใช้น้ำมันหอมระเหยควรทำความคุ้นเคย ด้วยการแต้มตรงจุดที่แพ้ง่าย เพื่อตรวจสอบว่ามีอาการแพ้หรือไม่ก่อนใช้ และเช็คข้อมูลคุณสมบัติของน้ำมันก่อนใช้
8. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้ำมันหอมระเหยทั้งหมดที่คุณซื้อมานั้น เป็นน้ำมันหอมระเหยแท้
9. รากแองเจลิกา (Angelica archangelica) มะกรูด (Citrus × bergamia) และน้ำมันหอมระเหยจำพวกมะนาว ส้ม เลมอน ส่วนใหญ่ มีความไวแสง ห้ามใช้หรือแนะนำ การใช้น้ำมันหอมระเหยไวแสงก่อนการออกแดดบนผิวหนัง อาจทำให้เกิดผิวไหม้ได้
10. ใช้ความเข้มข้นต่ำ (<1%) สำหรับเด็กในระหว่าง การตั้งครรภ์และสำหรับผู้สูงอายุ
11. หลีกเลี่ยงหรือใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในทารกและเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปีมีเฉพาะน้ำมันหอมระเหย หากจำเป็นต้องใช้กับเด็ก ต้องนำมาเจือจางสูงมาก หรืออยู่ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ก่อนเสมอ
***************************************************************************************
เกี่ยวกับเรา About Us
ร้านเทวาด้า (Telvada) เป็นร้านเดียวในประเทศไทยได้ที่รับการรับรองโดย The National Association for Holistic Aromatherapy (NAHA) และเป็นร้านน้ำมันหอมระเหยเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่บริหารโดย คุณดาริกา ศรัณย์เกตุ (Ms. Darika Sarunyagate) นักอะโรมาเธอราพิสต์ Aromatherapist ที่ได้รับการรับรองจาก The National Association for Holistic Aromatherapy (NAHA) สมาคมแห่งชาติเพื่อการบำบัดด้วยกลิ่นหอมแบบองค์รวม ซึ่งเป็นสมาคมที่ไม่หวังผลกำไร อุทิศให้กับการบูรณาการแบบองค์รวมและการศึกษาการบำบัดด้วยน้ำมันหอมระเหยในรูปแบบการดูแลสุขภาพที่สมบูรณ์
ร้าน Telvada จำหน่ายน้ำมันหอมระเหยเกรดบำบัด 100% เท่านั้น โดยน้ำมันของร้านส่วนใหญ่จะเป็นเกรดออแกนิก (organic) หรือ 100% Pure Therapeutic Grade Essential Oils USDA Organic มีจำหน่ายทั้งแบบปลีกและส่ง สินค้านำเข้าเอง 100% ราคาไม่แพง พร้อมให้คำปรึกษาลูกค้า ในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการบำบัด หรือช่วยคิดค้นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่างๆ ที่มีน้ำมันหอมระเหยเป็นส่วนผสม พร้อมมีสถานที่ผลิต สามารถขอเลขที่จดแจ้งได้
หากลูกค้า ต้องการจะทดลองการบำบัดโดยการทาน ทางร้าน ขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ หรือ Aromatherapist ที่ได้รับการรับรองจากสถาบันระดับประเทศก่อนนะคะ
บทความโดย : Darika Sarunyagate
คุณแม่ลูก 1 ผู้หลงไหลใน Essential Oils มามากกว่า 20 ปี โดยเริ่มจากการท่องเที่ยวไปที่ต่าง ๆ ทั่วโลกเพื่อซื้อ Essential Oils ในที่ต่าง ๆ มาเก็บสะสม จนได้มาเรียนรู้เป็นนัก Aromatherapist ที่ New York อย่างแท้จริงและได้รับรอง Certified Aromatherapist โดย National Association for Holistic Aromatherapy (NAHA) เริ่มเปิดร้านในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2017 โดยมีความฝันที่จะให้คนไทยได้รู้จักและใช้ Essential Oils ที่มีคุณภาพดีที่สุด ในราคาที่จับต้องได้